ทีมคริสตัลพาเลซ นี่คือสโมสรที่ตั้งอยู่ในเฮิร์สทางทิศใต้ของลอนดอน ซึ่งปัจจุบันได้แข่งขันอยู่ในพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่ฤดูกาล 2014-15 แต่การก่อตั้ง สโมสรคริสตัลพาเลซ อย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อปี 1905 ซึ่งทางสโมสรก็ได้บอกว่าเป็นการสานต่อ จากทีมฟุตบอลสมัครเล่นดั้งเดิมที่เคยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1861 ทั้งมือสมัครเล่นและสโมสรฟุตบอลอาชีพ ได้มีการแข่งขันในบริเวณอาคารนิทรรศการ โดยในช่วงนั้นได้ลงแข่งรอบชิงชนะเลิศจนถึงปี 1915 รวมถึงต่อมาในการเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ทำให้ในช่วงเวลาถัดมาของปี 1924 ก่อนที่พวกเขาก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เฮิร์สพาร์ก สโมสรสมัครเล่นก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งใน สมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมฟุตบอลภายในปี 1863 สำหรับการแข่งขันครั้งแรกในเอฟเอคัพนั้น ได้เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 1871-72 สามารถเข้าไปได้ถึงรอบรองชนะเลิศ พร้อมกับได้หายไปในการแข่งขันและหลังจากปี 1875-76 ในการแข่งขันเอฟเอคัพ ก็ได้มีการกลับมาของทีมคริสตัลพาเลซ ซึ่งได้มาแข่งขันอีกครั้งในฐานะสโมสรอาชีพในปี 1905
แต่ต้นกำเนิดของทีมพวกเขานั้นมีมาตั้งแต่ 1861 จึงได้ถูกเรียกร้องว่าสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ควรได้รับการยอมรับและถูกแต่งตั้งให้เป็น สโมสรฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก พวกเขาก็ได้ลงสมัครการคัดเลือกในฟุตบอลลีก แต่ได้ถูกปฏิเสธและแข่งขันในเซาเทิร์นลีกแทน จนทำให้ในช่วงเวลาต่อมาของ ทีมคริสตัลพาเลซ ได้มีโอกาสเข้าร่วมฟุตบอลลีกอีกครั้งในปี 1920 ซึ่งพวกเขาจะได้ลงแข่งขันฟุตบอลอังกฤษ แต่ก็ยังทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก
โดยทำได้แค่จบอันดับสองไปในฤดูกาลนั้น หลังจากนั้นในปี 1964 ลำดับของ คริสตัลพาเลซ ก็ได้ตกลงมากโกว่าเดิมและในปลายทศวรรษที่ 1980-1990 สโมสรพวกเขาก็ประสบความสำเร็จในลีกสูงสุด โดยได้ครองอันดับสามในดิวิชัน 1 ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาต่อมาในฤดูกาล 1990-91 สโมสรของพวกเขาอาจโชคไม่เข้าข้างนัก ซึ่งได้พลาดการเข้ารอบยูฟ่าคัพและหลังจากนั้น ก็ได้มีการยกเลิกคำสั่งแบนของยูฟ่าด้วยเหตุผลที่ เฮย์เซล สเตเดียม ได้มีปัญหาและทำให้ทีมคริสตัลพาเลซ ได้สามารถพาทีมของเขาเข้ารอบชิงเอฟเอคัพ 1990
ถึงแม้ว่าจะแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างน่าเสียดายและพวกเขาก็มีส่วนร่วม โดยการเป็นสมาชิกก่อตั้งพรีเมียร์ลีกในปี 1992 หลังจากได้ตกชั้นจากลีกสูงสุดของอังกฤษในปี 1998 ทีมของเขาก็ตกต่ำหลังจากได้ผ่านความทุกข์ เนื่องจากปัญหาในด้านการเงินของทีมคริสตัลพาเลซ ซึ่งทำให้สโมสรเข้าสู่การบริหารใหม่สองครั้งในปี 1999,2010 จนในที่สุดสโมสรก็ฟื้นตัวและกลับมาเล่น พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในปี 2013 ต่อมาในช่วงเวลาของปี 2016 ก็สามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้ง
ก่อนที่จะจบไปด้วยอันดับรองชนะเลิศ ในการแข่งขันกับทางแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นอกจากนี้ชุดสโมสรของ ผู้เล่น คริสตัลพาเลซ ดั้งเดิมของพวกเขา คือสีม่วงแดงน้ำเงินและถูกใช้จนถึงปี 1973 เมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นชุดขาว โดยมีแถบแนวตั้งสีแดงและน้ำเงินที่ใช้มาจนถึงตอนนี้ แต่ก่อนหน้านี้ทาง ทีมคริสตัลพาเลซ ก็ได้มีการใช้ชุดดั้งเดิมของพวกเขา โดยมีเสื้อเชิ้ตมีห่วงสีน้ำเงินขาวและกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ก่อนจะได้มีการปรับใช้ในแบบปัจจุบัน นี่จึงถือว่าเป็นชุดแรกของการเริ่มต้นในปี 1861
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาภายในปี 1938 สโมสรก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนสีม่วงแดงและน้ำเงิน พร้อมทั้งได้ใช้เสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขาสั้นสีดำ จนได้ถูกใช้มาอย่างยาวนานและถูกเปลี่ยนในปี 1963 เมื่อสโมสรได้ใช้แถบสีเหลืองของทีมเยือน เพื่อเป็นสีประจำสโมสรและคู่แข่งของทีมคริสตัลพาเลซ ที่มีประวัติอันยาวนานและดุเดือดกับทีม ไบรท์ตันแอนด์โฮฟอัลเบียน อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งสโมสรคู่แข่งในอย่าง มิลล์วอลล์และชาร์ลตัน แอธเลติก ที่เป็นสโมสรฟุตบอลอยู่ในลอนดอนทางใต้
ประวัติคริสตัลพาเลซ ยุคการก่อตั้ง จนถึงปัจจุบันของ ทีมคริสตัลพาเลซ
ประวัติคริสตัลพาเลซ ต้นกำเนิดของสโมรสรได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยา 1905 ภายใต้การเสนอของผู้ช่วยแอสตันวิลลาอย่าง เอ็ดมันต์ กู๊ดแมน สโมสรได้มีการลงสมัครเลือกตั้งในฟุตบอลลีก ซึ่งการลงแข่งขันนัดแรงก็ชนะนิวบรอมป์ตันไปได้ 3-0 ทีมของพวกเขายังคงอยู่ในเซาเทิร์นลีกถึงปี 1914 โดยหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าตกใจคือการเอาชนะ นิวคาวเซิลยูไนเต็ด สำหรับการแข่งขันเอฟเอคัพในปี 1907 ที่อยู่ในช่วงของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จึงทำให้มีการร้องขอทีมคริสตัลพาเลซ
ให้มีการย้ายออกไปและได้ไปอยู่ที่เวสต์ นอร์วูด เอฟซี ซึ่งทำให้ในเวลาถัดมาสนาม ทีมคริสตัลพาเลซ เกือบพังอีกครั้งจากการพยายามวางระเบิด ของผู้ก่อการร้ายในการแข่งขันเอฟเอคัพปี 1913 โดยมีกลุ่มสหภาพสังคมและการเมือง วางแผนที่สนามของพวกเขาและเป็นส่วนหนึ่ง ของการรณรงค์วางเพลิงและระเบิดจากกลุ่ม ซัฟฟราเจิตต์ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ก็ได้มีแรงจูงใจทางการเมือง จึงทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลานั้น หลังจากนั้นภายในช่วง 1920-1958
พวกเขาก็มีส่วนร่วมอีกครั้งในการก่อตั้ง ฟุตบอลลีกดิวิชัน 3 ในฤดูกาล 1920-21 ซึ่งก็ได้จบลงด้วยดีและคว้าแชมป์และเข้าสู่ดิวิชัน 2 ซึ่งความสำเร็จนี้ทำให้ทีมคริสตัลพาเลซ สามารถเข้าร่วมลีกต่างๆในอังกฤษได้ โดยในเวลาถัดมาสโมสรก็ได้ย้ายไปเล่น สนามเซลเฮิร์สพาร์กแห่งใหม่ในปี 1924 โดยยังคงเล่นเกมเหย้ามาจนถึงปัจจุบัน สำหรับการแข่งขันเปิดสนามของทีมนี้ได้แพ้ให้ เดอะเวนส์เดย์ 0-1 ต่อหน้าผู้เข้าชมในขณะนั้นมากกว่า 25,000 คน
สโมสรได้ตกชั้นดิวิชัน 3 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขาพยายามอย่างหนักที่จะเลื่อนชั้น ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ สถิติคริสตัลพาเลซ จะจบในครึ่งบนของตาราง พร้อมกับครองอันดับรองแชมป์ถึงสามครั้ง รวมไปถึงในช่วงที่สงครามเกิดขึ้นนั้น ลีกฟุตบอลก็ได้ถูกระงับไปแบบอัตโนมัติ หลังผ่านสงครามมา ทีมคริสตัลพาเลซ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากในลีก โดยได้ตำแหน่งสูงสุดในตอนนั้นอยู่ที่อันดับ 7 ในทางกลับกันสโมสรต้องเลือกตั้งใหม่ถึง 3 ครั้ง ทำให้สโมสรยังคงอยู่ในดิวิชัน 3 จนจบฤดูกาล 1957-58
ในช่วงเวลาถัดมาตามรายงานของนักข่าว 4kdooball.com ได้กล่าวว่าในเดือนพฤษจิกายน 2012 ได้มีการเข้ามารับตำแหน่ง โค้ชคริสตัลพาเลซ ซึ่งในขณะนั้นได้คุมทีมโดยเอียน ฮอลโลเวย์ เขาทำให้สโมสรกลับมาแข่งพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังจากหายไปนานกว่าแปดปีและเอาชนะ วัตฟอร์ด ไปได้ในรอบเพลย์ออฟแชมเปียนชิป ซึ่งได้ลาออกในปีต่อมาและอลัน พาร์ดิว อดีตนักเตะของทีมคริสตัลพาเลซ ก็ได้ถูกเลือกให้เป็นโค้ชคนใหม่ในเดือนมกราคม 2015 ในการแข่งขันฤดูกาลแรกของเขาก็ทำให้สโมสร ได้เข้ารอบชิงเอฟเอคัพและถือเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี
ผ่านมาหลายปีจนถึงยุคของปาทริค วิเอรา ที่ได้เข้ามาเป็น ผู้จัดการคริสตัลพาเลซ คนใหม่ด้วยสัญญา 3 ปี โดยได้พาทีมเข้าสู่รองรองชนะเลิศเอฟเอคัพไปได้ จบด้วยอันดับที่ 12 ในลีกฤดูกาลแรกและเขาก็ถูกไล่ออกในเดือนมีนาคม 2023 หลังจากทำผลงานได้แย่เป็นอย่างมาก ซึ่งไม่สามารถเอาชนะทีมไหนได้เลย 12 นัดติดต่อกันทำให้ ทีมคริสตัลพาเลซ เกือบตกชั้นและล่าสุดก็มีข่าวการแต่งตั้งผู้จัดการใหม่ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมาและได้ฮอดจ์สันเข้ามาดูแลทีมจนสิ้นสุดฤดูกาลนี้
ประวัติทีมฟุตบอล ความเป็นมาของสนามและเจ้าของทีม ราชวังเรือนแก้ว
ประวัติทีมฟุตบอล สำหรับสนามกีฬาของสโมสรแห่งนี้ในปี 1905 บริษัทคริสตัล พาเลซ ได้เป็นเจ้าของและสถานที่จัดการแข่งขัน เอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งต้องการให้สโมสรมืออาชีพไปเล่นที่นั่น พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากฝูงชนจำนวนมหาศาล เพื่อก่อตั้งสโมสรฟุตบอล ทีมคริสตัลพาเลซ ขึ้นมาและให้พวกเขาได้มีสนามในการใช้งาน แต่ทุกอย่างก็ต้องชะงักเมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้เกิดขึ้นทำให้พื้นที่ถูกยึดโดยกองกำลังติดอาวุธ
ในเวลาต่อมาช่วงปี 1915 สโมสรพวกเขาก็ถูกทหารเรือบังคับให้ย้ายออก ซึ่งต้องไปใช้สนามชั่วคราวที่เฮิร์น ฮิลล์ เวโลโดรม แม้ว่าสโมสรอื่นจะเสนอให้ใช้พื้นที่ของพวกเขา แต่ทางสโมสรก็มองว่าการเลือกของเขาดีที่สุดแล้ว ทำให้ในช่วงเวลาต่อมาของปี 1918 พวกเขาก็ได้ซื้อที่ดินเพื่อสร้างเซลเฮิสต์พาร์ก ซึ่งที่เป็นตั้งและบ้านในปัจจุบันของพวกเขา ต่อมาได้มีการว่าจ้างสถาปนิกที่มีชื่อเสียง ในการสร้าง สนามคริสตัลพาเลซ ของพวกเขาให้เสร็จทันฤดูกาล 1924-25 แต่ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ทำให้การปรับปรุงสนามและดำเนินการจนถึงปี 1969 เมื่อได้มีการสร้างอัฒจันทร์หลักที่เป็นที่นั่งทั้งหมด หลังจากนั้นในช่วงต้นทศวรรษของ 1980 ได้มีการพัฒนาของไวท์ฮอร์สเลนเอนด์เพื่อเป็น ซูเปอร์มาร์เก็ต ภายในเวลาถัดมาของปี 1979 สนามของพวกเขาก็ได้ถูกตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีความจุของสนามมากถึง 51,482 คน ซึ่งได้มีการพัฒนาใหม่ทั้งหมดตามข้อกำหนดของ เทย์เลอร์รีพอร์ต ทำให้ความจุสนามของ ทีมคริสตัลพาเลซ ในปัจจุบันโดยรวมมีทั้งหมด 25,486 ที่นั่ง
ทำให้ในอีกหลายช่วงถัดมาของปี 2011 มีการเสนอขอให้ย้ายสโมสรกลับไปที่เดิม แต่เนื่องจาก สโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ ได้เลื่อนชั้นไปแข่งขัน พรีเมียร์ลีกในอีกสองปีถัดมาและมุ่งเน้น ในการพัฒนาสนามเซลเฮิสต์พาร์กใหม่ให้เป็น สนามที่สามารถมีความจุได้ถึง 40,000 ที่นั่ง สำหรับแผนปรับปรุงใหม่ของทีมคริสตัลพาเลซ ที่ต้องการขยายความจุสนามเพิ่มก็ได้รับการอนุมัติ จากการประชุมสภา ครอยคอน เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2018 จึงทำให้ทีมของพวกเขามีสนามใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับเจ้าของทีมเดิมก็คือบริษัท คริสตัลพาเลซ ที่ได้เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรสมัครเล่นและอาชีพ ประธานคนแรกของสโมสรแห่งนี้คือ ซิดนีย์ บอร์น เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานและเสียชีวิตลงในปี 1930 หลังจากการเสียชีวิตของประธานคนเก่า ก็ได้มีนักธุรกิจเข้ามาซื้อสโมสรในปี 1949 หลังจากนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนเจ้าของในช่วงมกราคม 1981 เมื่อมีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ชื่อว่ารอน โนเดส ได้เข้ามาควบคุมสโมสรและถูกขายให้ มาร์ค โกลด์เบิร์ก ในช่วงปี 1998
ทำให้กลายเป็นเจ้าของ ทีมคริสตัลพาเลซ อีกหนึ่งคนที่อยู่มายาวนานรองจากเจ้าของทีมคนแรก ทำให้ในอีกหลายทศวรรษต่อมาภายในปี 2010 ก็ได้มีนักธุรกิจเข้ามาซื้อสโมสรอีกครั้ง ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็ได้มี ผู้จัดการทีมฟุตบอล ดำรงตำแหน่งอยู่สองคนในช่วงปี 2010 โดยมีพอล ฮาร์ท , จอร์จ เบอร์ลีย์ ซึ่งในเวลาต่อมาอีกหนึ่งปีเบอร์ลีย์ก็ได้ถูกไล่ออกไป หลังจากนั้นต่อมาในเดือนสิงหาคมปี 2022 จอห์น เท็กซ์เตอร์ นักลงทุนชาวอเมริกันก็ได้ร่วมเป็นหุ้นส่วน ด้วยเงินทุนที่มากถึง 87.5 ล้านปอนด์และทำให้เขาถือหุ้นสโมสรอยู่ที่ 40%